Translate

วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

วัดถ้ำผากลอง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย

ได้มีโอกาสไปร่วมงานประจำปี วัดถ้ำผากลอง
ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย

วัดนี้เป็นวัดราษฎร์ธรรมยุติกนิกาย
เผื่อมีท่านใดสนใจ ผมลงเรื่อง ธรรมยุติกนิกายไว้ตอนท้ายครับ

เจ้าอาวาสคือ พระอนันต์ สัญญโต (ในรูปเป็นพระองค์ซ้ายสุด)

งานในปีนี้ท่านเจ้าอาวาสต้องการเน้นเรื่อง "ปฎิบัติบูชา"
เพื่อพยายามสอดแทรกธรรมะ ให้กับผู้มาเข้าร่วมงาน

เดิมงานประจำปีของวัดนี้ เกิดขึ้นจากการที่เป็นวันครบรอบวันเกิดของ
ของท่านเจ้าอาวาส และท่านได้จัดเลี้ยงอาหารเด็กๆและชาวบ้านในพื้นที่
หลังจากนั้น ในทุกๆปี จึงได้มีการจัดเลี้ยงอาหารเรื่อยมา และงานก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
มีผู้มีจิตศัทธาเข้าร่วมงานเพิ่มมากขึ้น ทั้งผู้ให้ และผู้รับ



ศาลาธรรมสองชั้น ที่ใช้เป็นศูนย์กลางในการปฎิบัติธรรม
ของผู้มาบวชเรียนช่วงสั้นๆ สวดมนต์ รวมถึงเป็นหอฉันไปในตัว



ชั้นบนของศาลาธรรม จะเป็นที่ประดิษฐานสารีริกธาตุ



รูปต่อไปนี้เป็นกิจกรรมที่ชาวบ้านในพื้นที่ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันมาทำทาน
ทำอาหาร แจกจ่าย และให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ทานกัน มีเหลือจากในงาน ก็ใส่ถุงกลับบ้านกันไป
แบ่งปันกัน

รูปนี้ ผมเจอทุกครั้งที่มีงานบุญที่วัดนี้ เป็นข้าวหลามที่ชาวบ้านที่นี่ช่วยกันทำ
ที่เห็นกระบอกยาวๆนั้น ถามคนที่ทำบอกว่าไม่ใช่ไม้ไผ่ แต่เป็นไม้หลาม
ผมคิดว่าคงเป็นไผ่คนละพันธ์
เพราะที่เขาเอามาทำนี้ ปล้องจะยาวมาก อย่างในรูปนี่คือความยาวของหนึ่งปล้อง
กะด้วยสายตาก็คงยาวราวๆ 50-60 เซนติเมตรได้



เมื่อเผาสุกแล้ว เขาว่าสังเกตจากน้ำในกระบอก ถ้าน้ำแห้งไม่ปุดๆแล้วก็คือสุกแล้ว
เขาจะเอามาปลอกเอาเปลือกด้านนอกออก เหลือแต่เนื้อด้านในบางๆ
ทำให้เวลาแกะกิน แค่ออกแรงฉีก ก็สามารถฉีกกระบอกออกเป็นซี่ๆ
แกะกินข้าวหลามด้านในได้สะดวก และไม่เลอะมือด้วย



อาหารที่จัดเตรียมไว้ถวายเพลพระ เช้าวันงาน



ข้าวจี่ ผู้ใจบุญนำมาร่วมทำบุญ แจกให้คนที่มาร่วมงานได้ทานกันฟรี



ซุ้มนี้ทำขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ เด็กๆชอบกันมาก



ส่วนเจ้านี้ ขับรถกะบะติดตั้งอุปกรณ์ทำข้าวโพดคั่ว นำมาแจกเช่นกัน



มะเขือเตรียมสำหรับทำส้มตำ



ข้าวตัง ทำกันไป แจกกันไปบริเวณในงาน



ข้าวจี่อีกเหมือนกัน แต่เป็นแบบทอด เหมือนไข่เจียวข้าวเหนียว



เมื่อได้เวลา พระที่นิมนต์มาจากวัดต่างๆก็ตั้งขบวนและบิณฑบาต คนที่มาร่วมงานต่างเข้าแถว
และตักบาตรทั้งข้าวเหนียวและของอื่นๆที่เตรียมกันมา



ลานข้างบ่อน้ำของวัด ที่กว้างพอสมควรแน่นไปด้วยผู้คนที่มาร่วมงาน
ที่เห็นหลังคาเต้นท์เรียงราย เป็นส่วนที่มีผู้มาร่วมทำอาหารแจกในงานทั้งหมด
มีทั้งที่มาจากหน่วยงาน ร้านค้า ต่างๆ ทั้งในพื้นที่ใกล้เคียง และมาจากแดนไกล



อีกมุมหนึ่ง จะเห็นว่ามีนักเรียนมาร่วมงานกันเยอะ
เพราะเจ้าอาวาสท่านจัดให้มีการมอบทุนการศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน
ที่ยากจนและขาดโอกาส ให้ได้รับทุนไปใช้ในการเรียนด้วย



ปิดท้ายด้วย อุปกรณ์วัดอุณหภูมิที่ผมพกติดตัวไปด้วย
เนื่องจากไปนอนที่วัดเพื่อร่วมงานในตอนเช้า
ช่วงเช้าตื่นมากับอากาศสดชื่น ราวๆ 10 องศาเท่านั้น
และอากาศไม่แห้ง ทำให้หายใจแล้วสดชื่นดีทีเดียว 
เพราะความชื้นในอากาศวัดได้ประมาณ 80%



เรื่องที่เกี่ยวกับธรรมยุติกนิกายมีดังนี้ครับ

ธรรมยุติกนิกาย หรือที่เรียกโดยย่อว่า คณะธรรมยุต เป็นคณะสงฆ์ที่พระวชิรญาณเถระทรงตั้งขึ้น
เพื่อฟื้นฟูศาสนาพุทธในสยาม และแก้ไขวัตรปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวผนวชอยู่นั้น ได้ทรงศึกษาพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน
ทำให้มีพระวิจารณญาณเกี่ยวกับความเป็นมาของพระพุทธศาสนา
และความประพฤติปฏิบัติของพระสงฆ์ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
เป็นเหตุให้มีพระราชดำริในอันที่จะฟื้นฟูการสั่งสอนพระพุทธศาสนา
และการประพฤติปฏิบัติของพระสงฆ์ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยตามที่ได้ทรงศึกษา
และทรงพิจารณาสอบสวนจนเป็นที่แน่แก่พระราชหฤทัยว่าถูกต้องเป็นจริงอย่างไร
แล้วพระองค์ได้ทรงนำประพฤติปฏิบัติขึ้นก่อน หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ
ทรงเริ่มแก้ไขที่พระองค์เองเป็นอันดับแรก ต่อมาเมื่อมีบุคคลอื่นเห็นชอบและนิยมตาม
จึงได้มีผู้ประพฤติปฏิบัติตามอย่างพระองค์ขึ้น และมีจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ
จนเกิดเป็นพระสงฆ์หมู่หนึ่ง หรือนิกายหนึ่ง ที่ได้ชื่อในภายหลังว่า ธรรมยุติกนิกาย
หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “ธรรมยุต” อันมีความหมายว่า ผู้ประกอบด้วยธรรม หรือชอบด้วยธรรม
หรือยุติตามธรรม ทั้งนี้ก็เพราะว่าพระสงฆ์นี้เกิดขึ้นด้วยมุ่งแสวงหาว่า ข้อใดเป็นธรรม
เป็นวินัย เป็นสัตถุศาสน์ (คือคำสั่งสอนของพระศาสดา) แล้วปฏิบัติข้อนั้น
เว้นข้อที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นวินัย ไม่เป็นสัตถุศาสน์ แม้จะเป็นอาจินปฏิบัติ
(ข้อปฏิบัติตามกันมาแต่ผิดพระธรรมวินัย) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ขึ้น
เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พระราชบัญญัติฉบับนี้มีชื่อว่า พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ร.ศ. 121
มีสาระสำคัญคือได้ยกสถานะคณะธรรมยุติ ให้เป็นนิกายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ธรรมยุติกนิกาย ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิรูปและฟื้นฟูด้านวัตรปฏิบัติของสงฆ์
ให้มีความถูกต้องและเข้มงวดตามพุทธบัญญัติ ให้พระภิกษุสงฆ์มีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด
ถูกต้องตามพระวินัยปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง
เป็นการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในส่วนที่บกพร่องของพระสงฆ์ไทยที่มีมาแต่โบราณ
ให้สมบูรณ์ทั้งพระวินัยปิฎกและพระสุตตันตปิฎก ซึ่งเป็นความพยายามของพระวชิรญาณเถระ
เพื่อช่วยปฏิรูปการคณะสงฆ์และเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองอย่างบริบูรณ์ขึ้นในประเทศไทย

การก่อตั้งคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย เป็นสาเหตุทำให้พระสงฆ์เถรวาทอื่นซึ่งเป็นพระสงฆ์ส่วนใหญ่
ที่ไม่ใช่คณะธรรมยุต ได้มีการประชุมและมีมติให้เรียกพระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่คณะธรรมยุตว่า
"มหานิกาย"


พิกัดวัดครับ
17.429216, 101.042754

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น