Translate

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

วัดพนัญเชิงวรวิหาร

ที่ประจำของผมทุกครั้งที่มาที่วัดนี้คือโรงเจเหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบ้านผม
ที่มักจะมาไหว้พระที่วัดนี้ เป็นประจำทุกปี
ในช่วงวันตรุษจีน (วันเที่ยว)

นอกจากวัดนี้แล้ว ก็ยังมีวัดโสธร
และศาลเจ้านาจา ชลบุรี ด้วย

ผมไม่ค่อยรู้เหตุผลว่าทำไมต้องเป็นวัดเหล่านี้
เอาว่าแม่ต้องการมา เราก็จัดให้

เพื่อประกอบความรู้ ผมเอาเกร็ดประวัติวัดจาก เวบ wiki มาลงไว้ด้วย

วัดพนัญเชิง เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนาน ก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา และไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามหนังสือพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง และพระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิงและพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์กล่าวไว้ว่า ได้สถาปนาพระพุทธรูปพุทธเจ้าพแนงเชิง เมื่อปี พ.ศ. 1867 ซึ่งก่อนพระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี 

พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ และใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา หน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย เคยได้รับความเสียหายในสมัยเสียกรุง แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2497 ได้โปรดเกล้าให้บูรณะใหม่หมดทั้งองค์ และพระราชทานนามใหม่ว่า พระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่รู้จักกันในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเชื้อสายจีนว่า หลวงพ่อซำปอกง คำว่า พแนงเชิง มีความหมายว่า นั่งขัดสมาธิ ฉะนั้น คำว่า วัดพนัญเชิง / วัดพระแนงเชิง หรือ / วัดพระเจ้าพแนงเชิง จึงหมายถึงวัดแห่งพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยคือ หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก นั้นเอง หรืออาจสืบเนื่องมาจากตำนานเรื่องพระนางสร้อยดอกหมาก คือ เมื่อพระนางสร้อยดอกหมากกลั้นใจตายนั้น พระนางคงนั่งขัดสมาธิ เพราะชาวจีนนิยมนั่งขัดสมาธิมากว่านั่งพับเพียบจึงนำมาใช้เรียกชื่อวัด บางคนก็เรียกว่า วัดพระนางเอาเชิง ตามสาเหตุที่ทำให้พระนางถึงแก่ชีวิต ฉะนั้น ถ้าเรียกนามวัดตามความหมายของคำว่า วัดพนัญเชิง ก็ย่อมหมายความถึงวัดที่มีพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ คือหลวงพ่อโต ( อ้างอิงจากประวัติวัดพนัญเชิงข้อมูลของทางวัดในปัจจุบัน )


ที่ประจำของผม ระหว่างรอแม่คือโรงเจ

อาหารที่โรงเจที่นี่เขาทำอาหารเจได้อร่อยถูกปาก

มาทุกครั้ง ต้องได้อิ่มทุกครั้งไป

ทานเจที่นี่ หลังทานเสร็จเราต้องล้างจานชามเอง

แต่เขาก็จัดที่ล้างไว้ให้มากเพียงพอ และสะดวกดีเลย

อาหารประจำก็มียำผักกาดดอง ผักบุ้งไฟแดง ต้มจับฉ่าย และอีกอย่าง ผมไม่แน่ใจว่าชื่อกานาฉ่ายหรือเปล่า

อิ่มอร่อยแล้วก็หยอดตู้รับบริจาค ทำบุญกันด้วยนะครับ


พิกัดวัดครับ
14.343345, 100.578570

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

นกกระจอก

วันนี้ระหว่างนั่งรอรถที่ป้ายเพื่อไปทำงาน
สังเกตุเห็นโครงหลังคาเต็มไปด้วยร่องรอยขาวๆ

พอมองดีๆ ก็เห็นนกกระจอกบินไปมา เกาะตามโครงหลังคา
ก็เข้าใจทันทีว่า คราบขาวๆที่เห็น คืออึของนกนั่นเอง
ทำให้นึกสงสัยว่า แล้วต้องมีนกกี่ตัวกัน ถึงมาถ่ายได้เป็นคราบเต็มไปหมดขนาดนั้น
คิดไปคิดมา นกกระจอกนี่ ดูเหมือนจะมีมากกว่าหนูซะอีกนะนี่

รูปนี้จาก http://commons.wikimedia.org/wiki/File:Tree_Sparrow_Japan_Flip.jpg

แล้วก็คิดไปถึงว่า แล้วนกตัวเล็กๆตัวนึง มันมีวงจรชีวิตยังไงนะ

ระหว่างนั่งรถไป มีเวลา จึงได้ค้นข้อมูลเกี่ยวกับ นกกระจอกดู

ก็น่าสนใจดีไม่ใช่น้อยครับ


รายละเอียดด้านล่างนี้ได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki/นกกระจอกบ้าน
 นกกระจอกบ้าน (อังกฤษ: Eurasian Tree Sparrow) เป็นนกเกาะคอนในวงศ์นกกระจอก มีสีน้ำตาลเข้มที่กระหม่อนและหลังคอ แก้มสีขาวมีจุดดำบนแก้มแต่ละข้าง นกกระจอกทั้งสองเพศมีชุดขนคล้ายกัน นกวัยอ่อนมีสีขนจืดกว่านกที่โตเต็มที่ นกชนิดนี้มีการกระจายพันธุ์เกือบทั้งทวีปยูเรเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Tree Sparrow (นกกระจอกต้นไม้) และมันถูกนำไปสู่ที่อื่นๆ รวมถึง สหรัฐอเมริกา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Eurasian Tree Sparrow (นกกระจอกต้นไม้ยูเรเชีย) หรือ German Sparrow (นกกระจอกเยอรมัน) ต่างไปจากนกพื้นเมือง นกกระจอกต้นไม้อเมริกา (American Tree Sparrow) แม้ว่าจะมีหลายชนิดย่อยที่ได้รับการยอมรับ แต่ลักษณะที่ปรากฏของนกแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยตลอดแนวการกระจายพันธุ์ที่กว้างขวาง
นกกระจอกบ้านทำรังไม่เป็นระเบียบในโพรงธรรมชาติ รูในอาคาร หรือรังขนาดใหญ่ของนกสาลิกาปากดำหรือนกกระสาขาว นกจะวางไข่คราวหนึ่งห้าถึงหกฟอง ไข่จะฟักเป็นตัวภายในสองอาทิตย์ นกกินเมล็ดพืชเป็นอาหารหลัก แต่บางครั้งจะกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นอาหาร โดยเฉพาะช่วงฤดูผสมพันธุ์ นกกระจอกบ้านเหมือนกับนกขนาดเล็กทั่วไปซึ่งอาจเสียชีวิตจากการติดเชื้อจากปรสิต โรคภัยไข้เจ็บ และถูกล่าโดยนกล่าเหยื่อ ทำให้โดยทั่วไปมีช่วงชีวิตประมาณสองปี

จากรูปด้านล่าง จะเห็นว่านกกระจอกนี่ แพร่หลายมาก อยู่ไปทั่วแทบทุกที่เลย
ส่วนสีเหลืองและฟ้า คือ ที่อยู่ของนกแบบย้ายถิ่นไปมา
ส่วนสีเขียวคือ เกิด โต และสืบพันธุ์ที่นั่นเลย



วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

ปลาโฉมงาม

วันนี้แวะตลาดกลางผลไม้ตะพง
ระหว่างเดินทางกลับจากบ้านเพ
และซื้อปลาโฉมงามจากในตลาดกลับมาด้วย

ปลาชนิดนี้ เคยซื้อให้แม่ลองทำอาหารทานดูเมื่อคราวก่อน
แม่ว่าอร่อย รอบนี้เลยซื้อทั้งตัวเลย ตัวละเกือบสามกิโลกรัม กิโลละ 150 บาท

เกล็ดความรู้
ปลาโฉมงาม ชื่อวิทยาศาสตร์: Alectis indicus (Rüppell, 1830) ชื่อสามัญ: Diamond Trevally ขนาด: 150 เซ็นติเมตร ถิ่นที่พบ: อินโดแปซิฟิก อาหาร: ปลาขนาดเล็กและสัตว์ที่มีเปลือกหุ้ม แหล่งที่อยู่: : แถบปะการังและโขดหิน ลักษณะทั่วไป: หัวมีลักษณะเป็นมุมและกว้าง ตากับปากห่างกันมาก ผิวเรียบ


พ่อค้าหั่นปลาเป็นชิ้นๆให้


หน้าตาปลาโฉมงาม

พิกัดตลาดกลางผลไม้เพื่อการเกษตรตะพง
12.646290, 101.349409


วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

อ่างเก็บน้ำบนเกาะเสม็ด

 อ่างเก็บน้ำบนเกาะเสม็ด สร้างขึ้นในโครงการของ กรมชลประทาน เมื่อปี พ.ศ. 2541 เนื้อที่ 28 ไร่ ปริมาณกักเก็บน้ำ 1.5 ล้าน ลบ.ม. เพื่อบริการน้ำอุปโภคบริโภคแก่ปะชาชนบนเกาะเสม็ด และได้มอบให้ องค์การบริหารส่วนตำบลเพ ดูแล ซึ่งอ่างเก็บน้ำดังกล่าว จะรองรับน้ำฝน และน้ำที่ไหลลงจากยอดเขาเท่านั้น ซึ่งในปีที่ ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงบนเกาะเสม็ด มีปริมาณน้อย ประกอบกับอัตราการใช้น้ำในแต่ละวันสูงจะทำให้ปริมาณน้ำในอ่างลดลง อย่างรวดเร็ว จนแห้งขอด บ้านพักบนอุทยานฯ จำเป็นต้องปิดการให้บริการ ส่วนบังกะโลและรีสอร์ทต่างๆ ต้องซื้อน้ำจากฝั่งมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยว 

โดยปกติชาวบ้าน และผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ด ต่างก็ใช้น้ำ ในอ่างเก็บน้ำ บนเขา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบแห่งเดียวเท่านั้น ที่มีอยู่บนเกาะเสม็ด แต่ในปีที่ ฝนตกลงมาน้อยทำให้ น้ำในอ่างเก็บน้ำ แห้งเร็วจนน้ำใกล้จะหมดอ่าง แต่รถสูบน้ำของผู้ประกอบการก็ยังสูบน้ำไปขายอยู่ทุกวัน แม้ว่าน้ำจะเหลือติดก้นอ่าง มีแต่น้ำขุ่นๆ ก็ยังต้องสูบไปขาย ชาวบ้านและผู้ประกอบการจำเป็นต้องซื้อน้ำขุ่นมาใช้ โดยการใช้สารส้มแกว่งทิ้งไว้สักพัก เพราะการซื้อน้ำ จากฝั่ง แพงกว่า น้ำที่ซื้อบนเกาะมาก เพราะซื้อน้ำบนเกาะเที่ยวละ 300 บาท แต่ถ้าน้ำจากฝั่งเที่ยวละ 3,000 บาท ใช้ได้ 5 วัน เท่านั้น ส่วนผู้ประกอบการ ก็ต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้นเพราะต้องซื้อน้ำจากฝั่ง มาคอยให้บริการนักท่องเที่ยว

พอดีได้แวะมาดูอ่างเก็บน้ำ จึงหาข้อมูลที่เกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำนี้ เท่าที่มีมาได้เท่านี้


พิกัดสถานที่
12.566402, 101.451941


อ่าวพร้าววันนี้ 28 มค 2557

หาดทรายขาว สวย น้ำใสเป็นปกติแล้ว
ไม่มีร่องรอยคราบน้ำมันให้เห็นแม้แต่น้อย
แต่ เห็นว่าคนมาเที่ยวไม่มาก แม้จะเป็นช่วงไฮซีซั่น
เหตุบางส่วนนั้นมาจากการประท้วงที่ยังคงไม่สงบที่เมืองหลวงนั่นเอง


ช่วงนี้อากาศกำลังดี


น้ำใสมากๆ


พิกัดสถานที่
12.569745, 101.449505

Bar and Bed Samed

โดยรวม เป็นรีสอร์ทขนาดไม่ใหญ่นัก
ราวๆ สามสิบห้อง
แขกส่วนใหญ่ เป็นคนต่างชาติ

ช่วงเช้า น้ำขึ้น แถวที่นั่งชิวรับลมทะเล



ส่วนที่นั่งทานอาหาร
ทางซ้ายเป็นสระน้ำขนาดเล็ก


ส่วนร้านอาหาร กับที่พัก มีถนนคั่นกลาง


ที่ทานอาหารเช้านี้


สั่งเซทข้าวผัดสามสี


และชุดข้าวต้ม


พิกัดรีสอร์ท บนเกาะเสม็ด
12.576591, 101.456205

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

Thai USB Keyboard

เพิ่งมาเจอปัญหาการใช้งานภาษาไทยใน Tablet 
เป็นครั้งแรก เนื่องจากผมส่ง Notebook ไปซ่อม
จึงนำ Tablet ที่มีอยู่ มาใช้เขียน Blog แทน
แต่กลับพบว่า เมื่อเสียบ USB Keyboard แล้ว เปลี่ยนภาษาการพิมพ์มาเป็นภาษาไทยไม่ได้เลย o_0

เดิมๆ หากใช้วิธีการพิมพ์ผ่าน Virtual Keyboard บนหน้าจอ จะไม่มีปัญหานี้เลย
สามารถเปลี่ยนภาษาได้หมด แต่ USB Keyboard กลับเปลี่ยนไม่ได้

ก็เลยต้องหาทางทำให้ใช้งานได้ แล้วมาพบว่ามี App ที่จะช่วยให้พิมพ์ไทยได้ผ่าน USB Keyboard
ผมก็เข้า Google Play Sotre เพื่อค้นหา App ตัวนั้นทันที

 ค้นคำว่า Gadgetdoor Thai Keyboard



เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ให้คลิกรูป Keyboard เพื่อเลือกว่าเราจะใช้ Keyboard จาก Gadgetdoor Thai Keyboard ในการป้อนข้อความ
ทั้งนี้รูป Keyboard จะขึ้นมาเมื่อเราใช้นิ้วแตะที่หน้าจอส่วนที่จะพิมพ์ข้อความ จะทำให้ Android ขึ้นรูป Keyboard เล็กๆขึ้นมาเป็นส่วนที่จะให้เราเลือกว่า เราจะใช้อะไรในการป้อนข้อความ ดังรูปนี้จะเห็นสัญลักษณ์ Keyboard เล็กๆอยู่มุมบนขวา




เมื่อคลิกรูป Keyboard จะมีหน้าต่างให้เลือก Keyboard ที่เราต้องการดังรูป



ทั้นนี้เราสามารถใช้ตัว ~ หรือ Alt+~ ในการเปลี่ยนภาษาก็ได้ โดยให้ตั้งค่าใน Setting ของ Gadgetdoor Thai Keyboard


วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

App review MapMyRun

วันนี้พามารู้จัก App บนมือถือตัวหนึ่งที่ผมใช้ประจำ

เริ่มแรกเดิมที ตอนที่เริ่มวิ่งเพื่อเป็นการออกกำลังกายใหม่ๆนั้น

มันเป็นเรื่องยากมาก วิ่งแล้วเหนื่อย ไม่อยากวิ่งเลย

ก็เลยเริ่มหาอุปกรณ์ช่วย ก็ได้ฟังเพลงไปด้วย วิ่งไปด้วย ก็ช่วยให้ลืมเหนื่อยไปได้พอควร

จากนั้น ก็เลยรู้สึกว่า น่าจะหาโปรแกรมเก็บสถิติที่วิ่งๆไว้ด้วย จะได้รู้ว่าเรามีพัฒนาอย่างไรบ้าง

และเป็นตัวกระตุ้นการวิ่งไปในตัวด้วย

ก็เลยเข้าไปหาโปรแกรม แล้วเจอ MapMyRun ซึ่งดูแล้วน่าสนใจ ก็เลยลองติดตั้งแล้วใช้ดู

ที่สำคัญคือ ฟรี :) เพื่อนๆลองโหลดมาใช้กันได้นะครับ

อ้อ สำหรับมือถือ Android นะครับ ส่วน Apple ผมไม่เคยใช้เลยไม่รู้ว่ามีแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า

เมื่อติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว เปิดโปรแกรมมา หน้าแรกจะเป็นแบบนี้



ก่อนจะเริ่มวิ่ง ก็กรอกรายละเอียดต่างๆของเราใน Profile ให้เรียบร้อยก่อนนะครับ

โปรแกรมจะได้ใช้ น้ำหนัก ส่วนสูงของเรา มาคำนวณเป็นปริมาณพลังงานที่ใช้ในการวิ่งได้

เมื่อพร้อมแล้ว ก่อนวิ่ง ก็กดเข้าไปที่ปุ่ม Record

ก็จะมี Activity เป็นกิจกรรมให้เลือกว่า เราออกกำลังกายแบบไหน

ส่วนใหญ่ผมเลือกเป็น Run, Cycling, และ Cross Country

ตั้งค่าการอัพเดทการวิ่งของเราบน Facebook หรือ Twitter

แล้วรอให้สัญญาน GPS ที่มุมบนขวาขึ้นเป็นขีดให้เรียบร้อย ก็พร้อมกด Start ได้เลย

โดยเมื่อ Start แล้ว จะมีเสียงคอยบอก ว่าเราวิ่งได้กี่กิโลแล้ว ทำความเร็วได้เท่าไหร่ 

ใช้เวลาไปเท่าไหร่แล้ว ทำให้ไม่ต้องคอยมองจอ คือ ปิดจอแล้ววิ่งไปได้เลย




หน้านี้จะแสดงเส้นทางที่เราเคยวิ่งมาทั้งหมด



ส่วนหน้านี้จะเป็นสรุปกิจกรรมที่เราทำผ่านมาแล้ว



หากกดเข้าไปที่แต่ละ Workout ก็จะขึ้นรายละเอียด พร้อมแผนที่



หากกดเข้าไปดู View Route Details โปรแกรมจะพาไปที่หน้าเวบ MapMyRun ของเรา

ซึ่งจะมีรายละเอียดหากเปิดใน Computer

จากรูปด้านล่าง แผนที่สามารถซูมขยายได้

เมื่อชี้เม้าส์ไปที่แถบด้านล่าง จะมีรายละเอียดบอกว่า ที่จุดนั้น อยู่ตรงไหนในแผนที่

และ ณ เวลานั้น เราวิ่งที่ระดับความสูงเท่าไหร่ มีความเร็วอยู่เท่าไหร่


สุดท้ายนี้ ก็ขอให้ทุกคนได้ออกกำลังกายกันสม่ำเสมอ

และมีสุขภาพที่ดีๆกันทุกคนครับ

Underberg ยาดองเหล้าจากเยอรมนี เพื่อการช่วยย่อยอาหาร

ผมได้ Underberg จากผู้ใหญ่ที่เคารพ

ได้มาตอนแรกสุดยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ก็เลยมาค้นหาข้อมูลใน Google ได้ความว่า

Underberg เป็นยาช่วยย่อยอาหาร ที่เป็นผลิตภันฑ์ของประเทศเยอรมนี 
และทำมาจากสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมจาก 43 ประเทศ โดยสูตรส่วนผสมเป็นความลับ



Underberg เป็นธุรกิจในครอบครัว Underberg ก่อตั้งโดย Hubert Underberg-Albrecht เมื่อปีค.ศ. 1846

ทำโดยการกลั่นสมุนไพรนานาชนิดซ้ำๆแล้วหมักในถังที่ทำจากไม้โอ๊คสโลวีเนีย (Slovenian oak)



ช่วงปี 1939 มีการหยุดผลิดไปชั่วคราวเนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบ โดยกลับมาขายใหม่ในปี 1949



แต่ละขวดจะบรรจุยาไว้ขนาด 20 มล.



ลองเปิดมาชิมเรียบร้อย



ต้องบอกว่ามีแอลกอฮอลระบุไว้บนฉลาก 44%
แรงไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ประมาณเทียบเท่า วอดก้า ทั่วๆไปเลย
และมีกลิ่นหอมฟุ้งของสมุนไพร แบบที่เรียกว่า
ถึงจะเรอหลังจากนี้ ก็คงโดนกลิ่นสมุนไพรหอมกลบหมดแน่ๆ :)



ส่วนกลิ่นมีส่วนเหมือนลูกอม Ricola (Swiss Herb Candy) รส Original อยู่มากทีเดียว

เผื่อใครนึกไม่ออก ผมหารูปมาให้ดูประกอบครับ


ตัวยาเป็นสีแบบนี้

วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

วัดถ้ำผากลอง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย

ได้มีโอกาสไปร่วมงานประจำปี วัดถ้ำผากลอง
ตำบลนาพึง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย

วัดนี้เป็นวัดราษฎร์ธรรมยุติกนิกาย
เผื่อมีท่านใดสนใจ ผมลงเรื่อง ธรรมยุติกนิกายไว้ตอนท้ายครับ

เจ้าอาวาสคือ พระอนันต์ สัญญโต (ในรูปเป็นพระองค์ซ้ายสุด)

งานในปีนี้ท่านเจ้าอาวาสต้องการเน้นเรื่อง "ปฎิบัติบูชา"
เพื่อพยายามสอดแทรกธรรมะ ให้กับผู้มาเข้าร่วมงาน

เดิมงานประจำปีของวัดนี้ เกิดขึ้นจากการที่เป็นวันครบรอบวันเกิดของ
ของท่านเจ้าอาวาส และท่านได้จัดเลี้ยงอาหารเด็กๆและชาวบ้านในพื้นที่
หลังจากนั้น ในทุกๆปี จึงได้มีการจัดเลี้ยงอาหารเรื่อยมา และงานก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
มีผู้มีจิตศัทธาเข้าร่วมงานเพิ่มมากขึ้น ทั้งผู้ให้ และผู้รับ



ศาลาธรรมสองชั้น ที่ใช้เป็นศูนย์กลางในการปฎิบัติธรรม
ของผู้มาบวชเรียนช่วงสั้นๆ สวดมนต์ รวมถึงเป็นหอฉันไปในตัว



ชั้นบนของศาลาธรรม จะเป็นที่ประดิษฐานสารีริกธาตุ



รูปต่อไปนี้เป็นกิจกรรมที่ชาวบ้านในพื้นที่ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันมาทำทาน
ทำอาหาร แจกจ่าย และให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ทานกัน มีเหลือจากในงาน ก็ใส่ถุงกลับบ้านกันไป
แบ่งปันกัน

รูปนี้ ผมเจอทุกครั้งที่มีงานบุญที่วัดนี้ เป็นข้าวหลามที่ชาวบ้านที่นี่ช่วยกันทำ
ที่เห็นกระบอกยาวๆนั้น ถามคนที่ทำบอกว่าไม่ใช่ไม้ไผ่ แต่เป็นไม้หลาม
ผมคิดว่าคงเป็นไผ่คนละพันธ์
เพราะที่เขาเอามาทำนี้ ปล้องจะยาวมาก อย่างในรูปนี่คือความยาวของหนึ่งปล้อง
กะด้วยสายตาก็คงยาวราวๆ 50-60 เซนติเมตรได้



เมื่อเผาสุกแล้ว เขาว่าสังเกตจากน้ำในกระบอก ถ้าน้ำแห้งไม่ปุดๆแล้วก็คือสุกแล้ว
เขาจะเอามาปลอกเอาเปลือกด้านนอกออก เหลือแต่เนื้อด้านในบางๆ
ทำให้เวลาแกะกิน แค่ออกแรงฉีก ก็สามารถฉีกกระบอกออกเป็นซี่ๆ
แกะกินข้าวหลามด้านในได้สะดวก และไม่เลอะมือด้วย



อาหารที่จัดเตรียมไว้ถวายเพลพระ เช้าวันงาน



ข้าวจี่ ผู้ใจบุญนำมาร่วมทำบุญ แจกให้คนที่มาร่วมงานได้ทานกันฟรี



ซุ้มนี้ทำขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ เด็กๆชอบกันมาก



ส่วนเจ้านี้ ขับรถกะบะติดตั้งอุปกรณ์ทำข้าวโพดคั่ว นำมาแจกเช่นกัน



มะเขือเตรียมสำหรับทำส้มตำ



ข้าวตัง ทำกันไป แจกกันไปบริเวณในงาน



ข้าวจี่อีกเหมือนกัน แต่เป็นแบบทอด เหมือนไข่เจียวข้าวเหนียว



เมื่อได้เวลา พระที่นิมนต์มาจากวัดต่างๆก็ตั้งขบวนและบิณฑบาต คนที่มาร่วมงานต่างเข้าแถว
และตักบาตรทั้งข้าวเหนียวและของอื่นๆที่เตรียมกันมา



ลานข้างบ่อน้ำของวัด ที่กว้างพอสมควรแน่นไปด้วยผู้คนที่มาร่วมงาน
ที่เห็นหลังคาเต้นท์เรียงราย เป็นส่วนที่มีผู้มาร่วมทำอาหารแจกในงานทั้งหมด
มีทั้งที่มาจากหน่วยงาน ร้านค้า ต่างๆ ทั้งในพื้นที่ใกล้เคียง และมาจากแดนไกล



อีกมุมหนึ่ง จะเห็นว่ามีนักเรียนมาร่วมงานกันเยอะ
เพราะเจ้าอาวาสท่านจัดให้มีการมอบทุนการศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน
ที่ยากจนและขาดโอกาส ให้ได้รับทุนไปใช้ในการเรียนด้วย



ปิดท้ายด้วย อุปกรณ์วัดอุณหภูมิที่ผมพกติดตัวไปด้วย
เนื่องจากไปนอนที่วัดเพื่อร่วมงานในตอนเช้า
ช่วงเช้าตื่นมากับอากาศสดชื่น ราวๆ 10 องศาเท่านั้น
และอากาศไม่แห้ง ทำให้หายใจแล้วสดชื่นดีทีเดียว 
เพราะความชื้นในอากาศวัดได้ประมาณ 80%



เรื่องที่เกี่ยวกับธรรมยุติกนิกายมีดังนี้ครับ

ธรรมยุติกนิกาย หรือที่เรียกโดยย่อว่า คณะธรรมยุต เป็นคณะสงฆ์ที่พระวชิรญาณเถระทรงตั้งขึ้น
เพื่อฟื้นฟูศาสนาพุทธในสยาม และแก้ไขวัตรปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวผนวชอยู่นั้น ได้ทรงศึกษาพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน
ทำให้มีพระวิจารณญาณเกี่ยวกับความเป็นมาของพระพุทธศาสนา
และความประพฤติปฏิบัติของพระสงฆ์ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
เป็นเหตุให้มีพระราชดำริในอันที่จะฟื้นฟูการสั่งสอนพระพุทธศาสนา
และการประพฤติปฏิบัติของพระสงฆ์ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยตามที่ได้ทรงศึกษา
และทรงพิจารณาสอบสวนจนเป็นที่แน่แก่พระราชหฤทัยว่าถูกต้องเป็นจริงอย่างไร
แล้วพระองค์ได้ทรงนำประพฤติปฏิบัติขึ้นก่อน หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ
ทรงเริ่มแก้ไขที่พระองค์เองเป็นอันดับแรก ต่อมาเมื่อมีบุคคลอื่นเห็นชอบและนิยมตาม
จึงได้มีผู้ประพฤติปฏิบัติตามอย่างพระองค์ขึ้น และมีจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ
จนเกิดเป็นพระสงฆ์หมู่หนึ่ง หรือนิกายหนึ่ง ที่ได้ชื่อในภายหลังว่า ธรรมยุติกนิกาย
หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “ธรรมยุต” อันมีความหมายว่า ผู้ประกอบด้วยธรรม หรือชอบด้วยธรรม
หรือยุติตามธรรม ทั้งนี้ก็เพราะว่าพระสงฆ์นี้เกิดขึ้นด้วยมุ่งแสวงหาว่า ข้อใดเป็นธรรม
เป็นวินัย เป็นสัตถุศาสน์ (คือคำสั่งสอนของพระศาสดา) แล้วปฏิบัติข้อนั้น
เว้นข้อที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นวินัย ไม่เป็นสัตถุศาสน์ แม้จะเป็นอาจินปฏิบัติ
(ข้อปฏิบัติตามกันมาแต่ผิดพระธรรมวินัย) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ขึ้น
เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พระราชบัญญัติฉบับนี้มีชื่อว่า พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ร.ศ. 121
มีสาระสำคัญคือได้ยกสถานะคณะธรรมยุติ ให้เป็นนิกายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ธรรมยุติกนิกาย ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิรูปและฟื้นฟูด้านวัตรปฏิบัติของสงฆ์
ให้มีความถูกต้องและเข้มงวดตามพุทธบัญญัติ ให้พระภิกษุสงฆ์มีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด
ถูกต้องตามพระวินัยปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง
เป็นการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในส่วนที่บกพร่องของพระสงฆ์ไทยที่มีมาแต่โบราณ
ให้สมบูรณ์ทั้งพระวินัยปิฎกและพระสุตตันตปิฎก ซึ่งเป็นความพยายามของพระวชิรญาณเถระ
เพื่อช่วยปฏิรูปการคณะสงฆ์และเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองอย่างบริบูรณ์ขึ้นในประเทศไทย

การก่อตั้งคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย เป็นสาเหตุทำให้พระสงฆ์เถรวาทอื่นซึ่งเป็นพระสงฆ์ส่วนใหญ่
ที่ไม่ใช่คณะธรรมยุต ได้มีการประชุมและมีมติให้เรียกพระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่คณะธรรมยุตว่า
"มหานิกาย"


พิกัดวัดครับ
17.429216, 101.042754